หลังจากที่ประเทศไทยและเวียดนามปิดชายแดนและการเดินทางมานานสองปีกว่าเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและผู้คนได้รับวัคซีนกันจนคลอบคลุมแล้ว ทั้งสองประเทศก็เริ่มเปิดให้มีการเดินทางระหว่างกันได้ และเนื่องจากเราไม่ได้เดินทางมาตลอกช่วงการระบาด ทำให้เรามีงานค้างพอสมควร เมื่อทราบข่าวว่าสามารถเดินทางได้แล้วด้วยมาตรการที่ผ่อนคลายลง สามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้โดยไม่ต้องกักตัว เราก็รีบดำเนินการจัดทริปขึ้นมาทันที เพียงแต่การเดินทางครั้งนี้จะต้องเตรียมตัวและเอกสารก่อนการเดินทางเพื่อเป็นการแสดงว่าเรามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ก่อนเข้าประเทศเวียดนาม โดยสิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนการเดินทางก็มีดังนี้
- ผลตรวจ COVID ก่อนการเดินทางที่ออกโดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง โดยถ้าตรวจแบบ RT-PCR ต้องเป็นผล 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ส่วนถ้าตรวจแบบ Rapid test หรือ ATK ต้องออกภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
โดยสำหรับครั้งนี้เราตรวจแบบ ATK ที่โรงพยาบาลเปาโล ค่าตรวจ 750 บาท เราเลือกตรวจแบบนี้เพราะได้ผลเร็วและราคาถูกกว่า RT-PCR และอย่าลืมบอกโรงพยาบาลก่อนตรวจว่าจะเอาไปใช้เดินทางต่างประเทศให้ออกผลเป็นภาษาอังกฤษครับ

.
2. ใบรับรองการฉีดวัคซีนแบบ International หรือ International Vaccine Certificate โดยสามารถลงทะเบียนผ่าน Application หมอพร้อมและเลือก International Certificate จากนั้นก็กรอกข้อมูลให้ทางระบบส่งเอกสารให้เราทางอีเมล์ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 3 วันทำการ

.
3. ลงทะเบียนก่อนเข้าเวียดนามผ่านเว็บไซต์ https://tokhaiyte.vn เพื่อให้ได้ QR CODE ก่อนเดินทาง เมื่อเข้าไปตามลิงค์นี้แล้วให้คลิกที่ “Entry Declaration” จากนั้นคลิกที่รูปธงอังกฤษ เพื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ และก็กรอกข้อมูลส่วนตัวของเรา ข้อมูลที่พักหรือโรงแรมในเวียดนาม ข้อมูลไฟลท์บิน ข้อมูลการเดินทาง วันเวลาที่ไปถึง ข้อมูลการฉีดวัคซีน ผลตรวจ COVID และอัพโหลดเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อย จุดสำคัญคือใส่ชื่อสนามบินที่เราจะไปลงในช่อง Gate ให้ถูกต้อง เช่น Ho Chi Minh ให้ใส่ชื่อสนามบิน Tan Son Nhat Airport หรือ Hanoi ให้ใส่เป็น Noi Bai Airport มิฉะนั้น เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เวียดนามจะไม่ให้เราผ่าน ต้องเสียเวลาแก้ข้อมูลอีก เมื่อกรอกข้อมูลและกดยืนยันแล้วจะได้ QR CODE มาทันที สามารถ Save หน้าจอเก็บไว้ได้เลย – สามารถดูขั้นตอนการลงทะเบียบแบบละเอียดที่นี่

.
4. เตรียมข้อมูลสำหรับการกลับเข้าไทยไว้ล่วงหน้าด้วย โดยช่วงที่เราเดินทางนั้น การจะเข้าไทยต้องจองโรงแรมสำหรับมาตรการ Test & Go โดยต้องจองเป็นแพ็คเกจที่พัก 1 คืนสำหรับกักตัวระหว่างรอผลตรวจ พร้อมรถรับจากสนามบินไปตรวจ RT-PCR และชุดตรวจ ATK สำหรับตรวจด้วยตนเองในวันที่ 5 หลังจากกลับถึงไทย โดยการขอเข้าประเทศไทยแบบ Test & Go จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3-7 วันทำการ เราจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการเดินทางเข้าไทย ข้อมูลการฉีดวัคซีน และใบรับรองการจองที่พักพร้อมแพ็คเกจดังกล่าวในเว็บไซต์ https://tp.consular.go.th เพื่อขอรับการพิจารณา หากได้รับการอนุมัติ ระบบจะส่ง QR CODE ให้เราทาง email (คำนวณวันเดินทางกลับถึงไทยและระยะเวลาพิจารณาให้ดีด้วยนะครับ…..สำคัญมาก)

.
5. ดาวน์โหลด Application : PC COVID ติดโทรศัพท์ไว้และลงทะเบียนให้เรียบร้อย (ใช้อีเมล์ในการลงทะเบียน) เพราะบางโรงแรมหรือบางสภานที่ต้องให้เราสแกน QR CODE เพื่อเช็คอินก่อนเข้า คล้ายๆ ไทยชนะของบ้านเรา
.
6. ซื้อประกันเดินทางที่คลอบคลุมการรักษา COVID ไว้ด้วย ข้อนี้ไม่ได้บังคับและเราแนะนำว่าควรจะมีติดตัวไว้เผื่อฉุกเฉินหรือเกิดเหตุสุดวิสัย
.
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว…เราก็พร้อมที่จะเดินทาง…หลังจากที่ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศมานานกว่าสองปี ครั้งนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย โดยรอบนี้เราไปกับสายการบิน Air Asia เจ้าประจำเส้นทางกรุงเทพ (ดอนเมือง DMK) – Ho Chi Minh ที่ให้บริการมายาวนานตั้งแต่ก่อน COVID
ข้อมูลเที่ยวบินของเรารอบนี้เป็นดังนี้
Route : Bangkok – Don Maung (DMK) – Ho Chi Minh (SGN)
Flight No. : FD 656 (Air Asia)
Aircraft : Airbus A320
ETD : 07.35am (GMT+7)
ETA : 09.15am (GMT+7)
Duration : 1 Hour 30 minutes
Cabin : Economy

.
เราไปถึงสนามบินดอนเมือง (อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ) ประมาณ 4.30 น. สามชั่วโมงก่อนเวลาบิน เพราะเราเผื่อเวลาสำหรับเช็คเอกสารที่อาจจะนานกว่าปกติ เพราะต้องดูทั้งใบรับรองต่างๆ สำหรับเข้าประเทศเวียดนาม สนามบินเงียบมาก ปิดไฟเกือบทั้งหมด เปิดไฟเฉพาะแถวเช็คอินแถวที่ 1 ที่มีแต่ Air Asia เท่านั้นบินที่บินต่างประเทศ อาจจะเพราะเพิ่งมีการเปิดให้เดินทาง เที่ยวบินยังคงน้อยอยู่


.
ไปถึงเคาน์เตอร์เช็คอินก็เปิดรอเราแล้ว เจ้าหน้าที่ถามหาเอกสารทั้งหมดตามที่กล่าวมาข้างต้น พร้อมทั้งแนะนำว่า “หาอะไรทานให้เรียบร้อยก่อนผ่าน Immigration เพราะด้านในไม่มีอะไรขาย ร้านอาหารไม่มีเปิด”



.
เมื่อเช็คอิน โหลดกระเป๋าและได้ Boarding Pass มาแล้ว เราก็ผ่านกระบวนการ Security และ Immigration ตามปกติ ภายในนั้นเงียบมาก วันนี้ทั้งวันที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินดอนเมืองนั้น มีบินทั้งหมด 4 ไฟลท์และเป็นของ Air Asia ทั้งหมด ซึ่งเราไม่ค่อยชินกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะปกติสนามบินแห่งนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คน และมีเที่ยวบินนับร้อยเที่ยวต่อวัน ก็หวังว่าสถานการณ์จะเป็นปกติโดยเร็วที่สุด อยากเห็นภาพการเดินทางที่คับคั่งอีกครั้ง 🙂




.
วันนี้เราจะขึ้นเครื่องที่ประตูทางออกหมายเลข 21 ซึ่งเดินไม่ไกลเท่าไหร่ และเครื่องบินก็จอดรอเราอยู่ก่อนแล้ว




.
เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ก็เรียก Boarding โดยผู้โดยสารเที่ยวบินนี้ส่วนมากเป็นชาวเวียดนามและฝรั่ง มีคนไทยไม่ค่อยเยอะ และจากการประมาณด้วยสายตาผู้โดยสารมีเพียง 40 คนเท่านั้น คงจะเพราะเพิ่งเปิดการเดินทาง


.
ผังที่นั่งของเครื่องบินนี้ก็เป็นแบบ 3-3 ตามแบบเครื่อง Single Aisle ทั่วไป ความกว้างก็กะทัดรัดตามแบบ Low Cost ซึ่งบินแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายอะไรครับ




.
หลังจาก Boarding ผู้โดยสารครบแล้วก็ Push Back และ Take off ตามเวลา ใช้เวลาบินไม่นานก็ Landing สู่สนามบิน Tan Son Nhat International Airport ตรงตามเวลา


.
เมื่อมาถึงแล้วก็เป็นขั้นตอนสำคัญ ขั้นตอนที่เราจะต้องยื่นเอกสารทั้งหมดที่เราเตรียมมาทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อจะข้ามขั้นตอนการกักตัว โดยเมื่อมาถึงแล้วก็เดินตามป้ายเพื่อไป Immigration แต่ก่อนที่เราจะไปผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองนั้น จะมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ตรวจ QR CODE ที่เราได้มาจากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://tokhaiyte.vn พร้อมทั้งเรียกดู International Vaccine Certificate และผลตรวจ COVID ว่าเป็น Negative ก่อน ซึ่งเราต้องผ่านการรับรองจากเจ้าหน้าที่ส่วนนี้ก่อนจึงจะสามารถไปผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติได้ ถึงตรงนี้ไม่ต้องกังวล หากเอกสารครบและถูกต้องตามข้อกำหนดก็ผ่านได้ไม่ยาก


เมื่อผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว เราก็ออกไปรับกระเป๋าได้เลย โดยวันนี้เราสามารถรับกระเป๋าที่สายพานหมายเลข 1 จากนั้นก็ถือว่าเราผ่านขั้นตอนการเข้าสู่เวียดนามโดยสมบูรณ์และสามารถเดินทางภายในเวียดนามได้โดยอิสระแบบไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป เพียงแต่ต้องคอยเช็คอินเข้าสถานที่ต่างๆ ด้วยแอพ PC COVID รวมถึงหมั่นดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือบ่อยๆ และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกมาด้านนอกที่พักของเรา เพราะ COVID ยังคงอยู่



.
จะเห็นว่าไม่ยากเลยที่จะเดินทางมาเวียดนามด้วยเหตุผลด้านการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ เพราะไม่ต้องกักตัวแล้ว เพียงแต่ต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลให้พร้อมก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สุดท้ายนี้ขอปิดท้ายด้วยรูปนคร Ho Chi Minh ที่ยังคงสวยงามและมีสีสันทุกครั้งที่เราไปเยือน…..ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทาง 🙂

.
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
Written By : Shipy Siwarit Tiasuwattiseth
One thought on “[Review] บิน Air Asia ไป Ho Chi Minh หลัง COVID”