หลังจากที่ผมเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศอินเดียแล้ว ทริปนั้นของผมยังไม่จบเลยเสียทีเดียว เพราะผมจะต้องต่อไปยังกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ดินแดนไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย เพื่อทำงานต่อก่อนจะกลับไทย โดยเมืองสุดท้ายที่ผมจะออกจากอินเดียคือ โคชิ หรือ โคชิน (Kochi หรือ Cochin) เมืองตากอากาศชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย ซึงก็โชคดีสำหรับผมที่เมืองโคชิเป็นเมืองใหญ่ มีท่าอากาศยานนานาชาติไปหลายประเทศและโคลัมโบก็เป็นหนึ่งในจุดหมายที่มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินแห่งนี้ ซึ่งให้บริการโดยสายการบินแห่งชาติของศรีลังกาอย่าง Sri Lankan Airlines ที่มีเที่ยวบินให้บริการวันละ 2 เที่ยวบิน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2017)
เที่ยวบินจากโคชิไปโคลัมโบนั้นแม้จะเป็นเที่ยวบินข้ามประเทศ แต่เป็นเที่ยวบินสั้นๆ ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที เท่านั้น เพราะเป็นการบินข้ามฝั่งจากแผ่นดินใหญ่ (อินเดีย) ไปยังเกาะ (ศรีลังกา) โดยมีรายละเอียดเที่ยวบินตามนี้ครับ
ROUTE : Kochi (COK) – Colombo (CMB)
FLIGHT : UL168 – Sri Lankan Airlines
AIRCRAFT : Airbus A320
DATE : 25.04.2017
ETD : 04.15PM (GMT+5.5)
ETA : 05.25PM (GMT+5.5)
DURATION : 1 HOURS 10 Minutes
CABIN : ECONOMY
เริ่มจากผมมาถึงสนามบินนานาชาติโคชิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่งครับ (ผมเสร็จงานช่วงเช้าจากในเมืองประมาณเที่ยงเศษๆ แล้วดิ่งมานี่เลย เพราะกลัวรถติด คิวที่สนามบินยาว และสนามบินก็อยู่ห่างจากในเมืองประมาณ 35 กม. อีกด้วย) มาถึงแล้วผมก็เดินไปเช็คอินทันที บอกตามตรงว่าผมมาก่อนเวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียวและค่อนข้างผิดคาด นั่นคือสนามบินคนน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะที่นี่ถึงแม้เป็นเมืองใหญ่และมีไฟลท์ไปต่างประเทศ แต่ไม่ได้มีเยอะแบบเมืองเศรษฐกิจหลักอย่างเดลี มุมไบ หรือเชนไน แต่โชคดีที่เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดให้บริการพอดี
เมื่อเช็คอินได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ผมยังมีเวลาชิวๆ เดินแลกเงินอินเดียกลับเป็นดอลลาห์เอาไว้ เพื่อไปแลกต่อเป็นเงินรูปีศรีลังกาที่ปลายทาง เมื่อผ่าน ตม. และ Security แล้วก็เดินหาอะไรใส่ท้องก่อน เพราะรีบออกจากในเมืองมาจนไม่ได้กินอะไรมาเลย
หลังจากที่ท้องอิ่มแล้ว ก็นั่งทำงานที่ค้างๆ ต่อสักพัก พอได้เวลาอันควรก็ไปรอขึ้นเครื่องที่ประตู วันนี้ไฟลท์ของเราขึ้นเครื่องที่ประตูหมายเลข 2 อาคารผู้โดยสารต่างประเทศของสนามบินโคชินั้นไม่ใหญ่มาก และคนไม่ค่อยเยอะ บรรยากาศเลยสบายๆ ครับ
เมื่อไปถึงประตูขึ้นเครื่อง A320 ของ Sri Lankan Airlines ก็มาจอดรออยู่แล้ว นั่งได้สักพักก็เรียกบอร์ดดิ้งตามเวลาครับ
ที่นั่งชั้น Business จัดแบบ 2 – 2 ส่วนชั้น Economy จัดแบบ 3 – 3 ตามหลักเครื่องแบบ Single Aisle ทั่วไป
Seat Pitch ถือว่าไม่แคบมาก พอนั่งได้สบายๆ ไม่อึดอัด แต่ถ้าบินยาวๆ มีปวดไขข้อแน่ๆ สำหรับคนสูง 183 ซม. อย่างผม ส่วนกระเป๋าหน้าที่นั่งก็มีคู่มือความปลอดภัยและนิตรสาร ไม่มี PTV
เมื่อโหลดผู้โดยสารครบแล้วก็ Push Back ตามเวลา และเมื่อตั้งลำได้ สัญญาณรัดเข็มขัดดับ ก็เริ่มสำรวจห้องน้ำก่อนเลย และต้องขอตำหนิเรื่องความสะอาดสักหน่อย เพราะมีคราบให้เห็นทั้งที่ชักโครกและอ่างล้างมือ
และพนักงานก็บริการอาหารว่างทันที เพราะเวลาบินแค่ชั่วโมงเดียว โดยไม่มีตัวเลือกให้ มีเสิร์ฟอย่างเดียวเท่านั้นคือแซนด์วิชบันไส้โปรตีนเกษตรในซอสบาร์บีคิว (ได้ทั้งมังสวิรัติและฮาลาลเลย) มาในกล่องพร้อมน้ำแอปเปิ้ล รสชาติพอได้ เค็มๆ หวานๆ และก็จบเท่านั้น ไม่มี Soft drink หรือชา/กาแฟ เพิ่มเติม
จากนั้นพนักงานต้อนรับก็รีบเซิ้งตามเก็บขยะและสัญญาณรัดเข็มขัดก็ติด จากนั้นก็ลดระดับลงจอดสนามบินนานาชาติโคลัมโบ รวดเร็วมากๆ สำหรับไฟลท์นี้ นึกว่าบินกรุงเทพ – เชียงใหม่ (หรือใกล้กว่านั้นด้วยซ้ำ) และก็เข้าสู่อาคารผู้โดยสารด้วย Bus Gate ครับ
จากนั้นก็ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โดยผมใช้ E-Visa ครับ (สามารถดูรายละเอียดและวิธีสมัครได้ที่นี่) จากนั้นก็รับกระเป๋าได้ที่สายพานหมายเลข 1
เมื่อได้กระเป๋าแล้ว ก็จัดการหาแทกซี่เข้าเมืองได้จากเคาน์เตอร์ โดยสนามบินอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กม. หากใช้แทกซี่จากเคาน์เตอร์นั้นราคาประมาณ 3,200 รูปี (ประมาณ 800 บาท) ใช้เวลาประมาณ 1.00 – 1.50 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสภาพจราจร หรือหากใครจะไปเที่ยวต่อเมืองอื่นๆ เช่น แคนดี้ (Kandy) นั้นไม่ต้องเข้าเมืองครับ เพราะสามารถไปสถานีรถโดยสารที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินได้ หรือหากจะพักก่อน 1 คืน ก็พักได้ตามโรงแรมที่พักในเมืองเนกอมโบ (Negombo) โดยผมไปเที่ยวศรีลังกามาแล้วรอบหนึ่ง สามารถดูรีวิวได้จากที่นี่ครับ
และสำหรับทริปนี้ถึงแม้ไปทำงาน แต่ผมพอมีเวลาเหลือว่างครึ่งวันก่อนบินกลับไทยในวันสุดท้าย และทริปเที่ยวศรีลังกางวดที่แล้วผมพลาดไปเยือน วัดสีมามะละกา (Seema Malaka Temple) เพราะเวลาที่จำกัด มางวดนี้จึงขอใช้เวลาอันน้อยนิดที่ไม่กระทบกับงานมาตามเก็บวัดนี้ให้ได้ครับ วัดสีมามะละกาถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางน้ำบนทะเลสาบไบร่า ( Beira Lake) ใจกลางกรุงโคลอมโบ ถูกใช้เป็นที่นั่งสมาธิและพักผ่อนสำหรับพระภิกษุ และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย (ค่าเข้าชมคนละ 300 รูปี หรือประมาณ 75 บาท)
สะพานที่เชื่อมระหว่างถนนริมทะเลสาบเข้าสู่วัดสีมามะลากา
วิวเมืองโคลอมโบเมื่อมองจากวัดสีมามะละกาที่ตั้งอยู่กลางน้ำ
พระพุทธรูปปางต่างๆ ที่ประดิษฐานเรียงรายอยู่ภายนอกพระอาราม
พระพุทธรูปปางสมาธิที่บริเวณทางเข้าพระอาราม
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ภายในพระอาราม
ผมขอจบรีวิวไฟลท์สั้นๆ ข้ามประเทศของศรีลังกาแอร์ไลน์พร้อมทริปเยือนวัดกลางกรุงโคลอมโบแบบกะทัดรัดไว้เท่านี้ พบกันใหม่รีวิวหน้าครับ 😀