จากที่ผมมีภารกิจที่อินเดียฃ่วงสงกรานต์โดยผมเริ่มจากปฎิบัติงานที่มหานครมุมไบ (Mumbai) และเมืองแถวนั้นให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงย้ายฝั่งมาอีกเมืองท่าที่สำคัญฝั่งตะวันออกของอินเดีย นั่นคือเชนไน (Chennai) ซึ่งการเดินทางภายในประเทศอินเดียงวดนี้นั้นผมใช้บริการ Jet Airways ซึ่งเป็นสายการบิน Full service เอกชนยักษ์ใหญ่ของแดนภารตะ หากเทียบกับบ้านเราก็คงเป็น Bangkok Airways ประมาณนั้น จากที่ผมใช้บริการมาหลายครั้งรู้สึกว่าสายการบินนี้มีเส้นทางหลากหลายทั้งในและต่งประเทศ (มีบินมาประเทศไทยด้วยนะ) และบริการที่ค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว
สำหรับรูทมุมไบ – เชนไนนี้มีหลายสายการบินให้บริการและมีตารางแทบตลอด 24 ชั่วโมง มากกว่า 25 เที่ยวบินต่อวัน เพราะทั้งสองเมืองถือเป็นเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ แต่ผมเลือกบินเวลาเย็นๆ เราะตอนเช้ามีงานต้องทำและกะให้ไปถึงเชนไนช่วงค่ำๆ และเข้าโรงแรมพักผ่อนทันที เส้นทางนี้ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งมีรายละเอียดเที่ยวบินตามนี้ครับ
ROUTE : Mumbai (BOM) – Chennai (MAA)
FLIGHT : 9W 461 – Jet Airways
AIRCRAFT : Boeing 737 – 800
DATE : 19.04.2017
ETD : 06.05PM (GMT+5.5)
ETA : 08.05PM (GMT+5.5)
DURATION : 2 HOURS
CABIN : ECONOMY
ผมเริ่มจากมาถึงสนามบิน Chhatrapati Shivaji International Airport เวลาประมาณสี่โมงเย็นครับ ก่อนเครื่องออกเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ต้องมาเร็วเพราะว่าสนามบินของนครมุมไบนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่คับคั่งที่สุดในโลก ถึงแม้จะบินในประเทศก็ตามก็ต้องเผื่อเวลาสัก 2 ชั่วโมงครับ เนื่องจากคนเยอะมากจริงๆ
เมื่อมาถึงแล้วก็ตรงดิ่งไปเคาน์เตอร์ Check – in ทันที แต่ก็ตามคาดครับ พี่แขกเขาเดินทางกันเยอะจริงและแตาละคนมีสัมภาระใหญ่ๆ ทั้งนั้น ทำให้ความเร็วที่เคาน์เตอร์เช็คอินนั้นไม่ได้ดั่งใจ แต่ผมเห็นมีบริการ Self – check – in ที่เป็นตู้คอมพิวเตอร์จอสัมผัสและไม่มีคนใช้งานเท่าไหร่เลย จึงไปลองถามเจ้าหน้าที่ที่ยืนตรงนั้นดูว่า “ผมมีกระเป๋าที่ต้องเช็คอิน (โหลดใต้เครื่อง) ด้วย สามารถใช้บริการ Self – check – in” เขาตอบทันทีว่า “ได้ แค่เช็คอินที่ตู้นี้เพื่อรับ Boarding pass และนำกระเป๋าไปโหลดที่ช่อง Baggage drop” เอาล่ะ….หวานล่ะทีนี้ ไม่ต้องต่อคิว (เวลา 2 ชั่วโมงที่เตรียมมาไว้ต่อคิวจะได้เอาไปหาอะไรกินและเดินเล่น)
แถวเช็คอินที่เคาน์เตอร์ยาวจนล้น และช้ามากๆ เนื่องจากผู้โดยสารแต่ละคนขนสัมภาระกันเต็มลิมิตจริงๆ
ตู้เช็คอินด้วยตัวเอง (Self – Check – in) เมื่อเช็คอินได้ Boarding pass มาแล้ว ก็เอาสัมภาระเราไปโลหดใต้เครื่องที่ช่อง Baggage drop ได้เลย (สะดวก รวดเร็ว ใช้งานง่าย)
เมื่อเช็คอินได้บอร์ดดิ้งพาสและโหลดกระเป๋าแล้ว ก็ผ่านการเช็คความปลอดภัยและเดินเข้าไปด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่อง สนามบินมุมไบนั้นใหญ่มาก ใครที่จะใช้บริการสนามบินนี้ควรเผื่อเวลาให้มากๆ เพื่อป้องกันการตกเครื่องด้วยนะครับ ส่วนอาหารการกินด้านในนั้นมีหลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารฟาสต์ฟู้ด และร้านเครื่องดื่ม ราคาด้านในไม่ค่อยต่างจากด้านนอก อาจจะแพงกว่านิดหน่อยแต่ไม่ได้โหดเหมือนสนามบินบ้านเราครับ สำหรับไฟลท์ผมในวันนี้จะ Boarding ที่ประตูหมายเลข 47
เนื่องจากผมมีเวลาเหลือก่อนบอร์ดดิ้งประมาณชั่วโมงนึง จึงหาอะไรใส่ท้อง เพราะกะว่าไปถึงเชนไนแล้วจะไปโรงแรมและอาบน้ำนอนเลย จะได้มีแรงไว้สู้งานต่อวันถัดไป
หลังจากที่ท้องอิ่มแล้วก็นั่งทำงานต่อสักพัก พอได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์แล้วก็ตรงไปยัง Gate – 47 เพื่อขึ้นเครื่องตามนัด เนื่องจากสนามบินแห่งนี้ค่อนข้างคับคั่ง ประตูนึงเลยต้องซอยการ Boarding ออกเป็น 2 เที่ยวบินในเวลาเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ 47-A (ซ้าย) และ 47-B (ขวา) โดยไฟลท์ผมไปทางขวา (47-B) ส่วนทางซ้ายไปแมงกาลอร์ (Mangalore) แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะขึ้นผิดลำ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ประตูจะเช็คตั๋วเราอย่างละเอียดครับ
เมื่อไปถึงเจ้า B737-800 ก็จอดรอเราเรียบร้อยแล้ว ยืนแถวนั้นได้แป๊บเดียวก็เรียกบอร์ดดิ้ง (ถามว่าทำไมไม่นั่ง ก็เพราะว่าคนแน่นเต็มจนไม่มีที่นั่งครับ 🙂 )
โซนหน้าเครื่องเป็นที่นั่งชั้นธุรกิจ (สายการบินนี้เรียก Premier class) จัดที่นั่งแบบ 2 – 2
ส่วนถัดมาเป็นที่นั่งชั้น Economy ของเรา จัดเป็นแบบ 3 – 3 ตามหลักทั่วไปของเครื่องแบบ Single aisle
Seat Pitch กว้างกำลังดี และของหน้ากระเป๋าที่นั่งก็มีคู่มือความปลอดภัยและนิตยสาร
หลังจากที่โหลดผู้โดยสารขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้วก็ Push back และ Take off ตามเวลา เมื่อตั้งลำได้ก็เริ่มสำรวจห้องน้ำก่อนเลยครับ
จากนั้น Cabin crew ก็ให้บริการอาหาร สำหรับเที่ยวบินนี้ซึ่งมีระยะเวลาบิน 2 ชั่วโมงนั้น เสิร์ฟเป็นอาหารร้อน (Hot Meal) ครับ โดยอาหารนั้นเป็นไก่ผัดเครื่องแกงแบบอินเดีย ทานคู่กับมันฝรั่ง รสชาติพอได้ครับ ไม่ถึงกับอร่อย แต่สำหรับผมถือว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
จากนั้นก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ และก็ขอชาร้อนมาล้างปาก
นั่งต่อไปอีกสักประมาณชั่วโมงเศษๆ เครื่องก็เริ่มลดระดับและลงจอดที่สนามบิน Chennai International Airport ตรงตามเวลาครับ จากนั้นก็เข้าสู่อาคารผู้โดยสารและรับสัมภาระได้ที่สายพานหมายเลข 4