การเดินทางข้ามเมืองภายในประเทศรัสเซียรวมถึงเดินทางไปในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง (เช่น เบลารุส ฟินแลนด์ เป็นต้น) สามารถทำได้โดยสะดวก 2 วิธีคือ ทางรถไฟและทางเครื่องบิน แต่วิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดคือทางรถไฟ เพราะความสะดวกสบายของการเดินทางที่สามารถขึ้นรถไฟได้จากสถานีรถไฟที่อยู่ภายในใจกลางเมือง ไม่ต้องออกไปนอกเมืองหลายกิโลเมตรเพื่อขึ้นเครื่องบิน มีเที่ยวรถไฟให้เลือกได้หลายรอบความความต้องการ รถไฟออกจากสถานีต้นทางและถึงสถานีปลายทางตรงต่อเวลาชนิดที่ถึงพร้อมกับตารางเวลาตอนซื้อตั๋วเป๊ะ ค่าโดยสารที่เหมาะสม รวมถึงการบริการบนขบวนรถไฟที่เอื้ออำนวยต่อการพักผ่อนมาก โดยหากนั่งรถไฟตู้นอนกลางคืนข้ามเมืองนั้นเราสามารถนอนหลับบนรถไฟและถึงที่หมายในเวลาเช้าก็สามารถเที่ยวต่อได้ทันที สามารถประหยัดค่าโรงแรมได้ในตัว (โดยปกติแล้วค่าโดยสารรถไฟตู้นอนข้ามเมืองแพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ แต่หากหักลบค่าโรงแรมที่ประหยัดได้หนึ่งคืนและค่าเดินทางจากในเมืองไปสนามบินแล้ว ถือว่าถูกกว่ามาก) การเดินทางข้ามเมืองโดยรถไฟตู้นอนจึงเป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่มีขบวนรถให้บริการหลายสิบเที่ยวต่อวัน
นอกเหนือจากรถไฟข้ามเมืองระยะไกลแล้ว การเดินทางไปในท่องเที่ยวตามชานเมืองหรือต่างจังหวัดนั้นนักท่องเที่ยวก็นิยมใช้บริการรถไฟเช่นกัน ด้วยข้อจำกัดจากการเดินทางโดยรถยนต์ที่มีราคาค่อนข้างสูง และถนนหนทางในรัสเซียก็ไม่ได้ดีนักเนื่องจากข้อจำกัดของภูมิประเทศ รวมถึงค่าโดยสารรถไฟชานเมืองที่ถูกมากและขบวนรถมีความตรงต่อเวลามาก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดการแผนการท่องเที่ยวชานเมืองได้ค่อนข้างง่าย โดยข้อมูลของรถไฟแต่ละประเภทและขั้นตอนการใช้บริการเป็นดังต่อไปนี้

1. รถไฟข้ามเมืองระยะไกล

ประเภทของรถไฟข้ามเมืองระยะไกลมีอยู่สองประเภทหลักคือรถไฟความเร็วสูง (Sapsan : Сапсан) และรถไฟธรรมดา (Red Arrow : Кра́сная стрела́)

           1.1 รถไฟความเร็วสูง

          ภาษารัสเซียออกเสียงว่า “ซับซาน” มีให้บริการในเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นรถไฟความเร็วสูง โดยมีความเร็วสูงสุดประมาณ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเดินทางระหว่างมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (ระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร) ที่นั่งในขบวนรถเป็นแบบเก้าอี้มีให้บริการ 2 ชั้น คือ ชั้นธุรกิจ (Business class) และชั้นประหยัด (Economy class) ส่วนราคาค่าตั๋วก็ถือว่าแรงตามความเร็วของขบวนรถ คือชั้นธุรกิจอยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 4,200 – 6,500 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 2,500 – 3,900 บาท) และชั้นประหยัดประมาณเที่ยวละ 2,500 – 3,500 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 1,500 – 2,100 บาท)

ขบวนรถไฟความเร็วสูง (Sapsan)

ที่นั่งชั้นธุรกิจ (Business class) ของรถไฟความเร็วสูง

ที่นั่งชั้นประหยัด (Economy class) ของรถไฟความเร็วสูง

  1.2 รถไฟธรรมดา

          หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารถไฟนอน เพราะมักจะให้ออกจากสถานีต้นทางในเวลากลางคืนและถึงสถานีปลายทางในเวลาเช้า เป็นประเภทรถไฟที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการมากที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับการเที่ยวรัสเซียแบบแบ็คแพ็คที่เป็นจุดที่พบกันครึ่งทางพอดีระหว่างของความสะดวกสบายและความประหยัด รถไฟนอนมีให้บริการครอบคลุมแทบทุกทุกเส้นทางภายในรัสเซีย (รวมถึงเส้นทางทราน – ไซบีเรียที่รู้จักกันทั่วโลก) ใช้เวลาเดินทาง 7 – 8 ชั่วโมงในเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยชั้นการให้บริการสามารถแบ่งได้เป็นประเภทหลักๆ ได้ดังต่อไปนี้

ชั้นหนึ่ง (SV ที่ย่อมาจาก Spalny Vagon) หรือชั้นหรูหรา (Luxury : Люкс) เป็นชั้นที่ให้บริการแบบกั้นเป็นห้องส่วนตัวจำนวน 9 ห้องต่อตู้ และมี 2 เตียงต่อห้อง มีอาหารบริการ สภาพห้องและเตียงตกแต่งอย่างดี และราคาก็เรียกได้ว่า “หรูหรา” เช่นเดียวกับชื่อ คือในเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 30,000 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 7,200 – 18,000 บาท) ขึ้นอยู่กับประเภทตู้ ประเภทห้อง ช่วงเวลาเดินทาง และการบริการ

ชั้นสอง (Купе) หรือ คูเป้ (Coupe) เป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด เพราะราคาไม่สูงมากนักและมีการกั้นห้องเป็นสัดส่วนเหมาะแก่การพักผ่อน มีทั้งหมด 9 ห้องต่อตู้ และมี 4 เตียงต่อห้อง ราคาค่าตั๋วในเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 2,200 – 3,000 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 1,320 – 1,800 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทาง

          ชั้นสาม (Плацкартный) หรือ ตู้รวม (Platzkart) ลักษณะเป็นเตียงนอนแต่ไม่มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วนเหมือนชั้นหนึ่งและชั้นสอง ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายในการเดินทาง มีทั้งหมด 54 เตียงต่อตู้ ราคาค่าตั๋วในเส้นทางมอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 1,000 – 1,200 รูเบิลต่อคน (ประมาณ 600 – 720 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเดินทาง

สำหรับรถไฟธรรมดาทุกขบวนจะมีห้องน้ำอยู่ที่ด้านท้ายตู้ทุกตู้ รวมถึงมีน้ำร้อนให้บริการฟรีทุกตู้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังตู้เสบียงที่อยู่บริเวณกลางขบวนที่ให้บริการจำหน่ายอาหารอีกด้วย

ตู้รถไฟธรรมดา (รถไฟนอน) แบบชั้นเดียวและแบบสองชั้น

ตัวอย่างเตียงของรถไฟชั้นหนึ่ง (Люкс)

ตัวอย่างเตียงของรถไฟชั้นสอง (Купе)

ตัวอย่างเตียงของรถไฟชั้นสาม (Плацкартный)

2. รถไฟชานเมือง (Sub – Urban train)

          รถไฟชานเมืองเป็นรถไฟที่ให้บริการในระยะสั้นๆ เน้นจอดรับ – ส่งผู้โดยสารทุกสถานีสำหรับขบวนรถธรรมดา หรือเฉพาะสถานีหลักสำหรับขบวนรถด่วน การเดินทางไปเที่ยวตามชานเมืองมอสโควในระยะไม่เกิน 100 กิโลเมตรนั้น รถไฟชานเมืองถือเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการ เพราะเป็นวิธีที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ปลอดภัย และสามารถกำหนดเวลาไปและเวลากลับได้ โดยรถไฟชานเมืองมีให้บริการตลอดทั้งวัน บางเส้นทางที่ผู้คนนิยมใช้จะมีเที่ยวรถตั้งแต่ประมาณ 5.00 น. จนถึงประมาณเที่ยงคืน และความถี่ค่อนข้างสูง บางชั่วโมงมีขบวนรถให้เลือกถึง 5 ขบวน ลักษณะการให้บริการของรถไฟชานเมืองจะเหมือนกับรถไฟชั้นสามของประเทศไทย คือเป็นที่นั่งแบบธรรมดาปรับเอนไม่ได้ และที่ตั๋วก็ไม่ได้ระบุที่นั่งและขบวนรถ เรียกได้ว่าแค่มีตั๋วก็สามารถเลือกขึ้นขบวนไหนก็ได้ที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของเรา และจะเลือกนั่งที่ไหนก็ได้เช่นกัน

ขบวนรถไฟชานเมืองจากมอสโควไปเซอกิเยฟ โพสาด (Sergiev Posad)

ลักษณะที่นั่งของขบวนรถไฟชานเมือง

         หลังจากที่เราทราบถึงประเภทของรถไฟภายในประเทศรัสเซียกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะมาดูกันต่อว่าการซื้อตั๋วรถไฟแต่ละประเภทนั้นทำได้อย่างไร ซึ่งผมขอยกไปไว้ในตอนต่อไป ซึ่งสามารถติดตามได้โดยคลิกที่ปุ่มด้านล่างนี้ครับ

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

SHIPY SIWARIT TIASUWATTISETH : เขียน

https://www.facebook.com/shipyshipdotcom